“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ขนมครกวิธีทำ How to ง่ายๆ สไตล์คีโต ให้อร่อยต้องรู้อะไรบ้าง?!
ขนมครก ขนมหวานของไทยที่มีมาแต่ช้านาน มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ทั้งหวาน มัน เค็ม และโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย หรืออื่นๆ เช่น เผือก ข้าวโพด ฯลฯ ทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างออกไป ถูกใจทุกเพศทุกวัย ซึ่งขนมครกนั้นยังสามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นขนมครกคีโตได้อีกด้วย ด้วยการเปลี่ยนส่วนผสมในส่วนที่เป็นแป้ง เพื่อให้ชาวคีโตสามารถกินได้อย่างไม่ผิด และยังคงความอร่อยเหมือนเดิม นอกจากฟักทองเมนูที่เป็นเมนูขนมไทยๆ แล้ว ใครที่อยากลองทำขนมครกโบราณกันบ้างนั้นมาดู ขนมครกวิธีทำ แบบคีโตกันค่ะ ว่าต้องทำอย่างไร และใส่ส่วนผสมอะไรบ้าง
ขนมครกวิธีทำแสนง่าย ที่ชาวคีโตกินได้สบายใจ
ขนมครก เป็นขนมไทยโบราณ ที่มีการใช้แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล และกะทิ มาผสมกันให้เป็นแป้ง โดยปกติแล้วเราจะเห็นว่าขนมครกของไทยเรานั้นจะประกอบด้วยแป้ง 2 ส่วน คือ แบบเค็มและแบบหวาน ให้กลิ่นที่หอมหวาน และเนื้อเนียนจากกะทิ ทั้งมีรสชาติที่อร่อยแบบครบรส และมีการนำมาประยุกต์ด้วยการเพิ่มหน้าต่างๆ เช่น หน้าข้าวโพด หน้าเผือก หน้าฝอยทอง หน้าลูกเกด และอื่นๆ ขนมครกวิธีทำก็ไม่ยาก เมื่อผสมแป้งเข้ากันแล้วก็จะนำไปหยอดลงบนกระทะที่มีหลุมแบบครึ่งวงกลม แล้วปิดท้ายด้วยการหยอดกะทิปิดหน้า เมื่อสุกแล้วก็จะนำมาประกบกันสองชิ้นเป็นวงกลม ขนมครกเป็นขนมโบราณที่อร่อย กินเพลิน และเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย
เกร็ดสุขภาพ : ขนมครกวิธีทำแบบปกตินั้นจะมีส่วนผสมหลักในการทำแป้งคือ แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และกะทิ ในขณะที่ส่วนผสมหน้าขนมครกจะมีหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ ส่วนเครื่องโรยหน้าขนมครกนอกจากต้นหอมซอย ก็จะมีที่นิยมคือ เผือกต้มสุก เม็ดข้าวโพดต้มสุก ขนมฝอยทอง เป็นต้น
ขนมครกวิธีทำสไตล์คีโต
หากดูจากส่วนผสมของขนมครกปกติแล้วจะเห็นว่ามีส่วนผสมหลายอย่างที่ชาวคีโตไม่สามารถกินได้ แล้วถ้าเราต้องการทำขนมครกคีโตกันนั้นจะต้องใช้ส่วนผสมอะไรทดแทนบ้าง ? ขนมครกวิธีทำแบบคีโตนั้นสามารถทำได้แค่เพียงเปลี่ยนส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้าและแป้งข้าวเหนียว เป็นแป้งมะพร้าวที่เป็นส่วนผสมสำหรับชาวคีโตโดยเฉพาะ สามารถนำแป้งมะพร้าวมาทำขนมได้หลายอย่าง รวมถึงขนมครกแสนอร่อยนี้ด้วย และถ้าหากใครไม่มีกระทะหลุมสำหรับทำขนมครก เรามีวิธีทำแบบง่ายๆ ที่บ้านด้วยการใช้กระทะเทฟล่อนค่ะ
วัตถุดิบในการทำแป้งขนมครก :
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- กะทิ 180 มิลลิลิตร
- สตีเวีย หรือหญ้าหวาน 3 กรัม
- แป้งมะพร้าว ½ ถ้วย
- ไซเลี่ยมฮัสค์ 1 ช้อนโต๊ะ
วัตถุดิบในการทำหน้าขนมครก :
- กะทิ 70 มิลลิลิตร
- สตีเวีย 1 กรัม
- เกลือชมพูเล็กน้อย
- ต้นหอมซอย หรือเครื่องโรยหน้าอื่นๆ ตามชอบ
วิธีทำ :
- ปั่นส่วนผสมของแป้งขนมครกเข้าด้วยกันจนเนียน พักไว้
- ใส่ส่วนผสมหน้าขนมครกยกเว้นต้นหอมลงในชามเข้าด้วยกัน แล้วคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
- หยอดแป้งขนมครกลงบนกระทะหลุม หากไม่มีสามารถทำบนกระทะเทฟล่อนธรรมดาได้ ด้วยการทาน้ำมันมะพร้าวบางๆ บนกระทะที่ตั้งไฟอ่อนๆ
- พอกระทะอุ่นแล้ว ให้ค่อยๆ ตักแป้งเทลงไปเป็นวงกลมเล็กๆ คล้ายๆ เวลาทำแพนเค้ก
- พอหน้าแป้งเริ่มเซ็ตตัว ให้หยอดหน้าขนมลงไป ใช้ช้อนคนเบาๆ ตรงบริเวณที่จะหยอดเพื่อไม่ให้หน้าขนมไหลออกจากตัวขนม
- ค่อยๆ หยอดหน้าลงไปจนได้ตามที่เราพอใจ
- พอหน้ากะทิเริ่มสุกให้โรยต้นหอมซอยลงไป หรือหน้าอื่นๆ ตามชอบ
- จากนั้นปิดฝาด้วยกระทะเพื่อให้ขนมสุกดีและทั่วถึง
- เมื่อสุกแล้ว ตักออกจากกระทะ พร้อมเสิร์ฟ
สำหรับคนที่อยากดูขนมครกวิธีทำแบบคีโตอย่างละเอียด สามารถดูได้ที่คลิปวิดีโอนี้เลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : การใส่ไซเลี่ยมฮัสค์ลงไปในขนมครกวิธีทำแบบคีโตนั้น เพื่อช่วยให้ตัวแป้งมีความเหนียวและข้นขึ้นนั่นเอง ไซเลี่ยมฮัสค์เป็นไฟเบอร์จากธรรมชาติที่ชาวคีโตสามารถกินได้ ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ดีท็อกซ์ของเสีย และขับสารพิษสะสมออกจากลำไส้ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคริดสีดวงทวาร และยังช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ท้องร่วง ท้องผูก รวมถึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยบำรุงหัวใจด้วยค่ะ
การทำขนมครกคีโต หรือแม้แต่ขนมอื่นๆ สูตรคีโตนั้น ส่วนผสมหลักของแป้งเราจะใช้แป้งมะพร้าวทดแทน หรือหากเป็นขนมเบเกอรี่ก็จะนิยมใช้แป้งอัลมอนด์ จะแตกต่างจากขนมคลีนที่นิยมใช้แป้งข้าวโอ๊ตทำ เช่น เมนูข้าวโอ๊ตไมโครเวฟ เพื่อนๆ อย่าจำสับสนกันนะคะ เนื่องจากข้าวโอ๊ตจัดเป็นธัญพืชซึ่งเป็นอาหารที่คนกินคีโตไม่สามารถกินได้ เพราะมีปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่สูงเกินไป เนื่องจากหัวใจหลักของการกินคีโตคือการจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
ขนมครกวิธีทำแบบคีโตนั้นไม่ยากเลยใช่มั้ยหล่ะค่ะ แค่เราปรับส่วนผสมเล็กน้อยก็สามารถทำออกมาเป็นขนมคีโตได้แล้ว แถมยังทำง่ายๆ ได้ที่บ้านด้วยกระทะอีกด้วย และนอกจากเมนูนี้แล้ว เรายังมีเมนูบีทรูทที่แนะนำสำหรับชาวคีโตอีกด้วยนะคะ สามารถอ่านได้ในเว็บไซต์ของเราเลย เพราะยังมีสูตรอาหารคีโตอีกเพียบ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : llamito.com, hibalanz.com, kangtung.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ