“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
สรรพคุณแก้วมังกร มีอะไรบ้าง ? ผลไม้ชนิดนี้มีโทษหรือไม่ ?
แก้วมังกร ผลไม้ที่พบได้ในเขตร้อนทั่วโลก ภายนอกผลมีลักษณะเป็นสีชมพูหรือสีเหลืองตามแต่สายพันธุ์ มีใบสีเขียวคล้ายหนามแหลม เมื่อผ่าออกด้านในจะเป็นเนื้อสีขาว สีแดง หรือสีชมพู และมีเมล็ดสีดำที่กินได้ มีรสหวานเล็กน้อย ที่นอกจากความอร่อยจนกลายเป็นที่นิยมมากแล้วนั้น ยังมีรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นซูเปอร์ฟู้ดของกลุ่มคนรักสุขภาพอีกด้วย เรามาดู สรรพคุณแก้วมังกร กันค่ะว่ามีอะไรบ้าง ทำไมถึงกลายเป็นสุดยอดอาหาร รวมถึงโทษของแก้วมังกรที่ควรรู้
เกร็ดสุขภาพ : รู้หรือไม่ว่าแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารสูง มีแคลอรี่ต่ำแต่เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม วิตามินซี วิตามินอี นอกจากนี้ยังมีเส้นใยอาหารจำนวนมาก แก้วมังกร 1 ถ้วย หรือประมาณ 227 กรัม จะมีไฟเบอร์สูงถึง 7 กรัม และมีแคลอรี่เพียง 136 กรัมเท่านั้น นอกจากสารอาหารที่จำเป็นแล้ว แก้วมังกรยังมีสารประกอบพืชที่เป็นประโยชน์ เช่น โพลีฟีนอล แคโรทีนอยด์ และเบตาไซยานิน อีกด้วย
สรรพคุณแก้วมังกรที่ควรรู้ ผลไม้นี้ดีต่อสุขภาพและมีโทษอย่างไร ?
ช่วยต่อสู้กับโรคเรื้อรัง
อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบและโรคภัยไข้เจ็บได้ วิธีหนึ่งในการต่อสู้กับสิ่งนี้คือการกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แก้วมังกร สรรพคุณแก้วมังกรข้อนี้จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจึงป้องกันความเสียหายของเซลล์และการอักเสบ และอาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน และโรคข้ออักเสบ หรือจะเป็นลูกพรุน ประโยชน์ก็ช่วยต้านมะเร็งได้เหมือนกันค่ะ
ส่งเสริมสุขภาพลำไส้
เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้คุณมีเอ็นดอร์ฟินตามธรรมชาติสูง จึงช่วยยกระดับอารมณ์และทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้จริง หนึ่งใลำไส้ของเรามีจุลินทรีย์หลากหลายชนิดกว่า 100 ล้านล้านตัว รวมถึงแบคทีเรียมากกว่า 400 สายพันธุ์ และจำนวนจุลินทรีย์เหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพของเราได้ เราจึงสามารถปรับปรุงความสมดุลของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยพรีไบโอติก เพราะเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ และสรรพคุณแก้วมังกรนั้นช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีสุขภาพดีดังกล่าวได้ และหากกินเป็นประจำอาจลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทางเดินอาหารและท้องเสียได้ค่ะ นอกจากนี้ฝรั่ง สรรพคุณยังคล้ายกัน เพราะมีไฟเบอร์สูงช่วยปรับปรุงลำไส้และลดอาการท้องเสียได้เช่นกัน
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับการติดเชื้อนั้นพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงคุณภาพของอาหารด้วย วิตามินซีและแคโรทีนอยด์ในแก้วมังกรอาจช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดเชื้อโดยการปกป้องเซลล์เม็ดเลือดขาวจากความเสียหาย เพราะเซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันของเราโจมตีและทำลายสารอันตราย และเนื่องจากสรรพคุณแก้วมังกรเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ เช่นเดียวกับประโยชน์แอปเปิ้ลเขียว ที่มีวิตามินซีและแคโรทีนอยด์จึงสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์เม็ดเลือดขาวของเราได้ และมีคุณสมบัติในการเสริมภูมิคุ้มกัน
เพิ่มระดับธาตุเหล็ก
สรรพคุณแก้วมังกรคือ เป็นหนึ่งในผลไม้สดไม่กี่ชนิดที่มีธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กมีบทบาทสำคัญในการลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยในการย่อยอาหารให้เป็นพลังงานอีกด้วย หลายคนอาจไม่ได้รับธาตุเหล็กเพียงพอจากอาหารที่กิน และเพื่อต่อสู้กับระดับธาตุเหล็กต่ำ สิ่งสำคัญคือต้องกินอาหารที่มีธาตุเหล็กหลายชนิด และแหล่งธาตุเหล็กที่อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ปลา พืชตระกูลถั่ว และซีเรียล ในขณะที่แก้วมังกรอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี เนื่องจากหนึ่งหน่วยบริโภคประกอบด้วยธาตุเหล็ก 8% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน นอกจากนี้วิตามินซีในแก้วมังกรยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีอีกด้วย
เป็นแหล่งแมกนีเซียมที่ดี
แก้วมังกรให้แมกนีเซียมมากกว่าผลไม้ส่วนใหญ่ โดยประมาณ 18% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน แมกนีเซียมมีส่วนร่วมในปฏิกิริยาที่จำเป็นสำหรับการย่อยอาหารให้เป็นพลังงาน การหดตัวของกล้ามเนื้อ การสร้างกระดูก และแม้แต่การสร้าง DNA รวมถึงการบริโภคแมกนีเซียมที่สูงขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยเรื่องสุขภาพกระดูก ซึ่งแก้วมังกรจัดว่าเป็นแหล่งแมกนีเซียมที่ดี จึงจัดว่าเป็นหนึ่งในสรรพคุณแก้วมังกรที่ดีต่อร่างกาย
โทษของแก้วมังกรที่ควรรู้
โดยทั่วไปแล้วแก้วมังกรจะกินได้อย่างปลอดภัย แถมยังมีสรรพคุณแก้วมังกรที่ดีต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าอาจจะมีรายงานถึงปฏิกิริยาการแพ้ ได้แก่ ลิ้นบวม ลมพิษ และอาเจียน ในบางคน แต่ปฏิกิริยาเหล่านี้มักจะพบได้ยากมาก ซึ่งหากคุณกินแก้วมังกรมากเกินไป โทษของแก้วมังกรที่พบคืออาจทำให้ปัสสาวะของคุณเป็นสีชมพูหรือแดงได้เท่านั้น อาการนี้จะคล้ายกับที่หากคุณกินบีทรูทเป็นจำนวนมากนั่นเอง เพราะฉะนั้น หากกินในปริมาณปกติก็ไม่ถือว่ามีโทษต่อร่างกายแต่อย่างใดค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : แก้วมังกรนั้นมีผิวด้านนอกและเนื้อด้านในหลายสีด้วยกัน เช่น ผิวด้านนอกสีชมพูเนื้อด้านในสีขาว นี่เป็นประเภทที่รู้จักกันดีที่สุด แต่ก็หวานน้อยที่สุดด้วย นอกจากนี้ยังมีผิวด้านนอกสีชมพูมีเนื้อด้านในสีแดงหรือชมพู พันธุ์นี้จะลูกใหญ่กว่าและหวานกว่าพันธุ์ที่เนื้อขาว และสุดท้ายผิวด้านนอกสีเหลืองและเนื้อด้านในสีขาว ซึ่งแก้วมังกรสีเหลืองนั้นจัดว่าหายากที่สุด แต่ก็หวานที่สุดเช่นกัน
วิธีกินแก้วมังกร พร้อมเมนูแนะนำ
แม้ว่าผิวที่หนาและเหนียวของแก้วมังกรจะดูน่ากลัว แต่การกินผลไม้นี้ค่อนข้างง่าย เคล็ดลับคือการค้นหาอันที่สุกเต็มที่ ซึ่งแก้วมังกรที่ยังไม่สุกจะเป็นสีเขียว ให้มองหาอันที่เป็นสีแดงสด และแก้วมังกรที่สุกแล้วควรจะนิ่มแต่ไม่เละ วิธีกินคือใช้มีดคมผ่าครึ่งตามยาว และตักผลไม้ด้วยช้อนหรือหั่นเป็นลูกเต๋าโดยการตัดเส้นแนวตั้งและแนวนอนลงในเนื้อโดยไม่ต้องตัดเปลือก กดที่ด้านหลังของผิวและเอาออกด้วยช้อนหรือหยิบออกได้อย่างง่ายดาย ส่วนเมนูแนะนำคือ ใส่แก้วมังกรลงในสลัดผลไม้พร้อมกับผลไม้เมืองร้อนอื่นๆ เช่น สับปะรดและมะม่วง นำไปปั่นให้เป็นไอศกรีม คั้นหรือใส่ลงในน้ำผลไม้ ใช้เป็นท็อปปิ้งสำหรับกรีกโยเกิร์ต หรือแช่แข็งและปั่นเป็นสมูทตี้ หรือจะกินสดเป็นของว่างก็ได้ นอกจากนี้ยังนิยมนำมาทำเป็นแยมผลไม้อีกด้วยค่ะ
แก้วมังกรเป็นผลไม้เมืองร้อนที่อร่อยคุ้มค่าที่จะลอง มีรสชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ให้สีสันแก่จานของคุณ ทั้งยังมีสรรพคุณแก้วมังกรที่ดีต่อร่างกายมากมายและให้สารอาหารที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น ไฟเบอร์ พรีไบโอติก และสารประกอบจากพืชที่เป็นประโยชน์ และทั้งหมดนี้ให้แคลอรี่ที่ต่ำอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มความหลากหลายให้กับการบริโภคผลไม้ แก้วมังกรเป็นตัวเลือกที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเลยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, webmd.com, health.clevelandclinic.org
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ