“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ไข้เลือดออก เกิดจากอะไร? มีอันตรายแค่ไหนต่อชีวิต
ในเวลานี้ของประเทศไทย ก็ถือว่าได้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ซึ่งหนึ่งในโรคที่เราสามารถพบเจอได้บ่อยในฤดูฝนนั่นคือ โรคไข้เลือดออก ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะของโรคนี้ และโรคนี้ถือว่าเป็นโรคที่อันตราย และมีความน่ากลัวเป็นอย่างมากหากเราไม่รักษา หรือป้องกันเอาไว้ก่อน ดังนั้น วันนี้เราจึงขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักว่าโรคไข้เลือดออก เกิดจากอะไรได้บ้าง ไข้เลือดออก อาการเป็นอย่างไร และมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้างเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงโรคนี้
โรคไข้เลือดออก คืออะไร?
โรคไข้เลือดออก หรือ Dengue Fever คือโรคที่เกิดการได้รับเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) เข้ามาสู่ในร่างกายของเรา โดยผ่านสัตว์พาหะอย่างยุงลาย เมื่อเราโดนดูดเลือดโดยสัตว์พาหะที่มีเชื้อไวรัสเดงกีแล้ว เชื้อนั้นจะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านระบบหมุนเวียนเลือด และก่อให้เกิดเป็นโรคไข้เลือดออกตามมา
เชื้อของโรคไข้เลือดออกมีด้วยกันอยู่ 4 ประเภท นั่นคือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และDENV-4 และหากเคยได้รับเชื้อโรคชนิดไหน ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันของชนิดนั้นๆ ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งนั่นหมายถึง หากได้รับเชื้อชนิดที่ต่างออกไป ผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้วก็ยังสามารถเป็นซ้ำได้อีก และส่วนใหญ่ มักจะมีอาการที่หนักกว่าครั้งแรกเสมอ
เกร็ดสุขภาพ : โรคไข้เลือดออก เกิดจากยุงลายที่เป็นพาหะ ซึ่งยุงลายนี้ สามารถแพร่พันธุ์ได้ดีในช่วงฤดูฝน จึงถือว่าโรคไข้เลือดออกเป็นอีกหนึ่งโรคที่มากับฝน ซึ่งมีโรคมือเท้าปาก โรคฉี่หนู และโรคปอดบวมเป็นโรคที่มากับฝนรวมอยู่ด้วย
- โรคไข้เลือดออกอาการเป็นอย่างไร?
โรคไข้เลือกออกนั้น สามารถแบ่งอาการได้เป็น 3 ระยะหลักๆ นั่นคือ
- ระยะฝักตัว ซึ่งในระยะจะใช้เวลาประมาณ 2 – 7 วัน จึงจะเริ่มแสดงอาการมีไข้สูงออกมา มีความรู้สึกเบื่ออาหาร รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน และเกิดจุดเลือดแดงตามบริเวณลำตัว แขน และขา
- ระยะวิกฤต ซึ่งเมื่อเข้าสู่ในระยะนี้แล้ว เนื่องจากมีการรั่วของน้ำเหลืองออกนอกจากเส้นเลือดแล้ว จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหมือนสูญเสียของเหลว หรือเลือดจากร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยจะมีไข้ที่ลดลง แต่ว่าจะมีอาการหนาวสั่นที่มากกว่าเดิม มีอาการมือเท้าเย็น ปวดท้อง มีเลือดออกได้ง่ายผิดปกติ เช่น อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล และถ้าในกรณีที่มีอาการรุนแรง จะมีความดันโลหิตต่ำ มีอาการช็อก และอาจถึงแก่ชีวิตได้ ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าผู้ป่วยทุกคนจะต้องเข้าสู่ระยะช็อกทุกราย
- ระยะฟื้นตัว เป็นระยะสุดท้ายของโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นระยะที่ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น ความดันโลหิตกลับมาเป็นปกติ ความอยากอาหารกลับมาเป็นปกติ และจุดเลือดตามร่างกายจะเริ่มหายไป
ปัจจัยที่ทำให้อาการรุนแรงใน ไข้เลือดออก เกิดจากอะไรได้บ้าง?
หากสงสัยว่าโรคไข้เลือดออก เกิดจากอะไรได้บ้าง คำตอบนั้นก็คือ โรคไข้เลือดออก เกิดจากการได้รับเชื้อเดงกีจากยุงลายที่เป็นพาหะ ซึ่งนั่นสามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศทุกวัย แต่มักจะพบในวัยเด็ก และวัยทำงานในสัดส่วนที่มากกว่าวัยอื่นๆ และผู้ที่มีอาการดังนี้ต่อไปนี้ เมื่อมีการติดเชื้อโรคไข้เลือดออกแล้ว อาจทำให้มีอาการรุนแรง หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาได้
- ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร เพราะการติดเชื้อของโรคไข้เลือดออกนั้น จะส่งทำให้เกิดการไหลออกของเลือดบริเวณกระเพาะอาหาร และลำไส้ ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะอาหารอยู่แล้วก็จะมีอาการหนักความกลุ่มคนทั่วไป
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไตวาย และโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างการมีประจำเดือน
- ผู้ที่มีโรคเม็ดเลือดแดงแตกง่าย หรือมีอาการของโรคที่เกิดจากความผิดปกติของฮีโมโกลบิน
วิธีการรักษา และป้องกันการเกิดโรคไข้เลือดออก
ในระยะเวลาที่มีอาการไข้ขึ้นสูง สามารถรักษาได้โดยการรับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล คอยหมั่นเช็ดตัว และควรหลีกเลี่ยงยาที่อาจส่งผลต่อการไหลของเลือดได้ เช่น ยาลดไข้ชนิด แอสไพริน และชนิดไอบูโพรเฟน อาจมีการให้รับประทานยาลดอาการอาเจียน หากมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย ซึ่งถ้าหากอาการมีการดีขึ้นตามลำดับ จะสามารถทำการรักษาเองที่บ้านได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการปวดท้อง อาเจียนมาก ดูซึมลง มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก และมีอาเจียนเป็นเลือด ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างเร่งด่วน
การลดจำนวนของยุงลายภายในบริเวณบ้านของเรา ถือว่าเป็นการป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ดีเป็นอย่างมาก เราจึงมีวิธีการไล่ยุงที่สามารถนำไปทำตามกันได้มาฝาก
- พยายามให้บ้านมีอากาศถ่ายเทอยู่ตลอด ทำการเปิดม่านเพื่อรับลม หรืออาจใช้พัดลมในบริเวณที่ยุงชุกชุม เพื่อทำให้ยุงเกิดการอ่อนแรง และบินหนีหายไป
- กำจัดแหล่งน้ำขังรอบๆ บริเวณตัวบ้าน ไม่ให้กลายเป็นที่เพาะพันธุ์ของเหล่ายุงลายที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก
- ใช้ประโยชน์กระเทียมโทนในการไล่ยุง นั่นคือการนำกระเทียมทุบพอแหลก และนำไปวางไว้ตามมุมอับ หรือมุมมืดต่างๆ ในบ้าน กลิ่นฉุนของกระเทียมโทนนั้นจะส่งผลไปยังยุงลาย และทำให้มันบินหายไปเอง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดสารเคมีอย่างแท้จริง
- ใช้เทียนไล่ยุง หรือใช้อุปการณ์ไฟฟ้าที่สามารถทำการไล่ยุงได้โดยเฉพาะเข้ามาช่วยปกป้องบริเวณบ้านของเรา และใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวสำหรับกันยุงร่วมด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากกระเทียมโทนจะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการช่วยไล่ยุงแล้ว ยังมีสรรพคุณในการต่อต้านเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ดังนั้น หากมองหาว่าเป็นหวัดกินอะไรหาย กระเทียมโทนก็เป็นอีกหนึ่งในคำตอบที่น่าสนใจไม่น้อย
เพียงเท่านี้ ทุกคนก็ได้ทราบแล้วว่าโรคไข้เลือดออก เกิดจากอะไร โรคไข้เลือดออกอาการเป็นอย่างไร และยังทราบอีกด้วยว่าวิธีป้องกันยุงลายที่เป็นพาหะของเชื้อไข้เลือดออกต้องทำอย่างไร ดังนั้นจึงหวังว่าทุกคนจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปลองทำตามกันดู เพื่อที่จะได้ห่างไกล และปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกกันนะครับ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : thonburihospital.com, med.mahidol.ac.th
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ