“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
การพัฒนาจิตใจ คืออะไร ? สำคัญยังไงกับการใช้ชีวิต
เราทุกคนจะต้องมาถึงจุดวิกฤตในชีวิตที่ทดสอบความแข็งแกร่งทางจิตใจ อาจเป็นเพราะเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานที่เป็นพิษ งานมาถึงทางตัน หรือความสัมพันธ์ที่ยากลำบาก และไม่ว่าความท้าทายจะเป็นอย่างไร เราต้องเข้มแข็งและมองสิ่งต่างๆ ผ่านมุมมองใหม่ๆ แม้ว่าเป็นเรื่องยากแต่เราสามารถพัฒนาจิตใจของเราให้เข้มแข็งขึ้นได้ และเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองเพื่อให้เราสามารถผ่านความทุกข์ต่างๆ เพื่อมีจิตใจที่แข็งแกร่งได้นั้น เรามารู้จักกันดีกว่าค่ะว่า การพัฒนาจิตใจ คืออะไร ? และส่งผลอย่างไรต่อชีวิตของเราบ้าง
การพัฒนาจิตใจ คืออะไร ? ส่งผลยังไงกับชีวิต และสามารถทำได้อย่างไรบ้าง
การพัฒนาจิตใจ คือ กระบวนการที่สำคัญยิ่งในชีวิตมนุษย์ที่ควบคู่มากับการพัฒนาการทางด้านร่างกาย การพัฒนาจิตใจเป็นการขจัดสิ่งรังควานต่างๆ ที่มาทำลายจิตใจและอารมณ์ของเรา เพื่อให้จิตใจสงบและเยือกเย็น และเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งทางจิตใจ ซึ่งความเข้มแข็งทางจิตใจนั้นเป็นเครื่องบ่งชี้ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ และเราจะสามารถพัฒนาจิตใจของเราได้อย่างไรบ้าง ? ลองทำตามคำแนะนำนี้ดูค่ะ
- ต้องมีความฉลาดทางอารมณ์
เพราะความฉลาดทางอารมณ์เป็นรากฐานของความแข็งแกร่งทางจิตใจ เราไม่สามารถมีจิตใจที่เข้มแข็งได้หากปราศจากความสามารถในการเข้าใจและอดทนต่ออารมณ์ด้านลบที่รุนแรง และการพัฒนาจิตใจอย่างหนึ่งคือการเพิ่ม EQ ของเรานั่นเอง เพราะ EQ เป็นทักษะที่ยืดหยุ่นซึ่งแตกต่างจาก IQ และมันสามารถได้รับการแก้ไขด้วยความเข้าใจและความพยายามได้
- มีความมั่นใจ
คนที่มีความมั่นใจจะมีผลอย่างมากต่อความสามารถในการประสบความสำเร็จ และคนที่มีจิตใจเข้มแข็งจะมีความได้เปรียบเหนือความสงสัยและความขี้ขลาดทั้งหมดทั้งปวง เพราะความเชื่อมั่นจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นและช่วยให้เราทำสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นและสำเร็จได้
- ต่อต้านคนที่เป็นพิษ
การรับมือกับคนนั้นเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและเหนื่อยยากสำหรับคนส่วนใหญ่ คนที่จิตใจแข็งแกร่งจะสามารถควบคุมการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่เป็นพิษโดยรักษาความรู้สึกของตนไว้ได้ เมื่อไหร่ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่เป็นพิษ ก็จะเข้าใจและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีเหตุผล
- รู้จักยอมรับการเปลี่ยนแปลง
คนที่จิตใจแกร่งมีความยืดหยุ่นและปรับตัวอยู่ตลอดเวลา จะรู้ดีว่าความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงจะเป็นภัยต่อความสำเร็จและความสุขของพวกเขา เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่ซ่อนอยู่ใกล้ๆ แค่เพียงคุณยอมรับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ก็จะพบแต่สิ่งที่ดีและได้ประโยชน์จากโอกาสที่การเปลี่ยนแปลงสร้างขึ้น
- ยอมรับความล้มเหลว
หนึ่งในการพัฒนาจิตใจ คือการยอมรับความล้มเหลว ไม่มีใครเคยประสบความสำเร็จที่แท้จริงโดยปราศจากความล้มเหลวในครั้งแรก เมื่อเราอยู่ในเส้นทางที่ผิด ความผิดพลาดของเราจะปูทางให้เราประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่ต้องคิดต่าง มองนอกกรอบ และหาทางแก้ไขสิ่งที่เราพลาดไป และไม่ยึดติดกับความผิดพลาดนั้น
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถพัฒนาจิตใจของเราได้โดยใช้หลักธรรมะได้อีกด้วย เช่น การฝึกจิต นั่งสมาธิ เพราะผลของการนั่งสมาธิจะทำให้เรามีสติมากขึ้น จิตใจสงบและรู้สึกถึงการปล่อยวาง ทำให้ลดความฟุ้งซ่านในจิตใจ และผ่านความทุกข์ต่างๆ ไปได้ด้วยการใช้หลักธรรมะเข้าช่วย
ประโยชน์ของการพัฒนาจิตใจ
การพัฒนาทางด้านจิตใจนั้นมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตหลายอย่าง เช่น หากเราฝึกเจริญสติเป็นประจำ จะทำให้เรามีสติตั้งมั่น มีความตั้งใจแน่วแน่ ไม่คิดฟุ้งซ่าน และสามารถนำไปใช้ในการทำงานได้ เพราะจะทำให้เรารู้จักคิด พิจารณา และทำความเข้าใจ มีสมาธิในการทำงาน ส่งผลให้เมื่อเราพบเจอปัญหาต่างๆ ในเรื่องของการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และอื่นๆ เราจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้แล้วยังมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตของเราให้มีความเข้มแข็ง และอดทนต่อความยากลำบากต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ สามารถขจัดความทุกข์กายและทุกข์ใจได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เรารู้จักเข้าใจผู้อื่น เกิดความเห็นอกเห็นใจ และอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมได้
เกร็ดสุขภาพ : คนที่มีปัญหาด้านจิตใจหากนอนหลับไม่เพียงพอ อาจทำให้ความสามารถในการควบคุมตนเอง สมาธิและความจำลดลงได้ เพราะฉะนั้น การนอนหลับที่มีคุณภาพจึงสำคัญต่อการพัฒนาจิตใจด้วย ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจ เพราะเมื่อเรานอนหลับสมองจะกำจัดโปรตีนที่เป็นพิษ ถ้าเรานอนหลับไม่เพียงพอ โปรตีนที่เป็นพิษจะยังคงอยู่ในเซลล์สมองและสร้างความเสียหายโดยการทำให้ความสามารถในการคิดของเราลดลง ส่งผลต่อการดูแลรักษาสภาพจิตใจได้นั่นเอง
การพัฒนาจิตใจของเรานั้นสามารถฝึกและทำได้ นอกจากจะต้องมีความเข้าใจแล้ว การลงมือปฏิบัติก็จะทำให้เกิดผลที่ดีและเร็วขึ้น อาจจะใช้หลักธรรมะเข้ามาช่วยด้วยก็ได้ เพราะวิธีฝึกพัฒนาจิตในด้านการดำเนินชีวิต คือ มีสติ มีสมาธิ มีเจตนา และมีความตั้งใจ รวมถึงต้องมีความเพียรที่จะมีสติอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เราควบคุมความคิดและการกระทำต่างๆ ของเราได้ด้วย โดยยึดตามหลักธรรมง่ายๆ และอย่าปล่อยให้ตนเองมีความคิดฟุ้งซ่านเกิดขึ้นบ่อยหรือนานจนเกินไป เพราะจะทำให้เราไม่สามารถควบคุมความคิดของเราให้เป็นไปตามเจตนาที่ตั้งไว้ได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : inc.com, gotoknow.org
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ