“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ว่านหางจระเข้ช่วยอะไร ? ทำไมเราต้องมีติดบ้าน ?!
ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera เป็นพืชที่เรามักจะเห็นในเครื่องสำอางได้บ่อยๆ เพราะว่าว่านหางจระเข้นั้นมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้น แต่เคยทราบไหมว่า นอกจากจะสามารถใช้ในการมาร์คหน้าแล้ว ว่านหางจระเข้ช่วยอะไร ได้อีกบ้าง วันนี้เราจึงอาสาพาทุกคนทำความรู้จักกับว่านหางจระเข้ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้รู้ว่าว่านหางจระเข้ประโยชน์มีอะไรบ้าง และสามารถนำว่านหางจระเข้มาใช้ได้หลากหลายมากแค่ไหน
ว่านหางจระเข้ คืออะไร
ว่านหางจระเข้ คือต้นพืชที่มีเนื้อแบบอิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลียม (Lilium) สายพันธุ์ของว่านหางจระเข้นั้นมีมากถึง 300 สายพันธุ์ ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายขนาด มีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กมากกว่า 10 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้ก็คือ มีใบที่มีลักษณะโคนที่หนาและมีปลายแหลม ด้านข้างมีขอบหนามเป็นชั้นๆ เนื้อในมีลักษณะที่เป็นวุ้นและมีน้ำเมือกเหนียว ซึ่งเนื้อวุ้นในใบของว่านหางจระเข้นี้ ได้รับความนิยมมากในการทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือเครื่องสำอางเป็นอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แต่มาดูกันว่า นอกจากบำรุงผิวหน้าแล้ว ว่านหางจระเข้ช่วยอะไรได้อีกบ้าง มีสรรพคุณอะไรที่ทำให้พืชชนิดนี้สนใจและควรเป็นพืชที่มีติดบ้าน
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากบำรุงผิวแล้ว ว่านหางจระเข้ก็มักนิยมนำไปบำรุงเส้นผมอีกด้วย เพราะว่านหางจระเข้สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผมแห้งได้ โดยการนำเนื้อวุ้นใสไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปปั่นรวมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1 : 1 นำน้ำที่ได้มาหมักที่โคนผมพร้อมกับนวดเบาๆ เป็นเวลา 15 – 20 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด เท่านี้ก็สามารถช่วยทำให้เส้นผมชุ่มชื้นขึ้นมาแล้ว
สรรพคุณต่างๆของว่านหางจระเข้
- ช่วยในการรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ว่านหางจระเข้สามารถช่วยในเรื่องการรักษาอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือแม้กระทั่งช่วยในการรักษาอาการผิวไหม้จากแดดก็สามารถทำได้ โดยการนำเอาวุ้นใสภายในใบของว่านหางจระเข้ออกมา นำไปล้างน้ำให้สะอาด จากน้ำนำมาประคบที่บริเวณที่เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการลงได้ นั่นเป็นเพราะว่าในเมือกนั้นมีสารเอนไซม์แบรดดีไคเนส (Bradykinase) ที่ช่วยในการลดการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่บริเวณเนื้อเยื่อของแผล อีกทั้งยังมีฤทธิ์เย็นที่เหมาะกับแผลที่เกิดจากความร้อนเป็นอย่างมาก
- ช่วยในการรักษาแผลถลอกได้
ว่านหางจระเข้สามารถช่วยทำให้แผลสมานได้ไว้ขึ้น เพราะว่าในเนื้อวุ้นมีส่วนผสมของสารลิกนิน ที่ช่วยในการเร่งการสมานแผล สามารถทำได้โดยการที่ทาเมือกในใบของว่านหางจระเข้ตรงบริเวณที่เกิดแผลถลอก หรือแผลที่ถูกของมีคมบาด ทาแบบบางๆ ที่แผลอย่างเป็นประจำ
- ช่วยในการรักษาสิวได้
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า สิวเกิดจากสิ่งสกปรกต่างๆ บนในหน้าของเรา ซึ่งในว่านหางจระเข้ มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก ที่ช่วยในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และยังช่วยในการเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังอีกด้วย
- ช่วยป้องกันและบรรเทาโรคเบาหวาน
ว่านหางจระเข้ช่วยอะไรได้อีกมากมาย นอกจากผิวกายแล้ว ว่านหางจระเข้ยังช่วยในเรื่องของโรคเบาหวาน ซึ่งมีความคล้ายกับประโยชน์ของใบแมงลักที่สามารถช่วยบรรเทาโรคเบาหวานได้ โดยการรับประทานเนื้อวุ้นภายในว่านหางจระเข้ที่ล้างจนสะอาดแล้ว หรือสามารถนำเนื้อวุ้นมาปั่นให้เป็นเครื่องดื่มก็สามารถทำได้
- ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
สามารถช่วยรักษาแผลในกระเพาะในขณะท้องว่างได้ ว่านหางจระเข้ประโยชน์นั้นมีมากมาย นอกจากรักษาแผลในกระเพาะได้ ยังสามารถรักษาโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วย เช่น โรคลำไส้อักเสบ
- ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
ถ้าเป็นอาการที่เกี่ยวกับการปวดศีรษะ ว่านหางจระเข้ช่วยอะไรได้บ้าง คำตอบคือ สามารถช่วยได้ โดยการตัดใบสดของว่านหางจระเข้ นำด้านที่เป็นวุ้นใสไปทาด้วยปูนแดง จากนั้นเอาด้านที่ทาปูนแดงปิดตรงบริเวณขมับ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยรักษาอาการปวดศีรษะได้เป็นอย่างดี
- ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ
ว่านหางจระเข้สามารถบรรเทาอาการปวดข้อได้ โดยการนำเนื้อวุ้นจากใบมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ให้รับประทานเนื้อวุ้น 1 – 2 ช้อนโต๊ะ ทุกครั้งหลังอาหาร และรับประทานอย่างเป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อให้น้อยลง ซึ่งมีความคล้ายกับสรรพคุณลูกยอ ที่ช่วยบรรเทาความรุนแรงจากอาการปวดข้อลงได้
- ช่วยรักษาในอาการท้องผูก
ว่านหางจระเข้ช่วยอะไรในเรื่องท้องผูกได้บ้าง คำตอบคือว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นยาแก้ท้องผูกได้ โดยการกรีดใบของว่านหางจระเข้เพื่อเอาเมือกเหนียวออกมา จากนั้นนำเมือกเหนียวมาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนงวด ทิ้งไว้เพื่อให้ตัวเมือกเย็นลงจนเป็นก้อนสีดำ หรือที่เรียกว่ายาดำ วิธีใช้คือ เติมยาดำลงไปในน้ำเดือด 1 ถ้วย คนจนยาดำละลายแล้วจึงค่อยรับประทานในเวลาก่อนนอน ปริมาณยาดำที่เหมาะสมกับผู้ใหญ่คือ 2 ช้อนชา แต่ในเด็กควรรับประทานไม่เกิด 1 ช้อนชา
เกร็ดสุขภาพ : พืชที่ช่วยในการแก้อาการท้องผูก นอกจากว่านหางจระเข้แล้ว ยังมีรากบัวอีกด้วย ซึ่งรากบัวสรรพคุณนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยในการแก้อาการท้องผูกเนื่องจากมีเส้นใยอาหารจำนวนมาก รักษาการติดเชื้อรา แถมยังสามารถรักษาสุขภาพจิตโดยทั่วไปอีกด้วย เพราะในรากบัวอุดมไปด้วยสารไฟลิดอกซีน (Pyridoxine) ซึ่งช่วยให้สมองของเราผ่อนคลาย
ว่านหางจระเข้ประโยชน์นั้นมีมากมายที่เราอาจจะคาดไม่ถึง ถือว่าเป็นพืชพันธุ์ที่มีประโยชน์ตั้งแต่ผิวพรรณไปจนถึงระบบทางเดินอาหาร หวังว่าหลายๆ คนจะได้ทราบว่าว่านหางจระเข้ช่วยอะไรได้มากมายขนาดไหน และนำว่านหางจระเข้ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : med.mahidol.ac.th, thairath.co.th, medthai.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ